วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล
ประวัติความเป็นมา
          สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา พัฒนามาจาก "พิพิธภัณฑ์สัตว์และสถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม" ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2512 โดยคณะอาจารย์ภาควิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บางแสน (วิทยาลัยวิชาการศึกษา บางแสน เดิม) และนิสิตอีกจำนวนหนึ่งโดย ดร.บุญถิ่น อัตถากร อดีตอธิบดีกรมการฝึกหัดครูและอดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้สนับสนุนการดำเนินโครงการดังกล่าว
         พิพิธภัณฑ์สัตว์และสถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม เปิดให้ประชาชนเข้าชมอย่างไม่เป็นทางการตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2513 และในวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2519มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บางแสน ได้กราบทูลเชิญสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงประกอบพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์สัตว์และสถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม
          พิพิธภัณฑ์สัตว์และสถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นลำดับจนไม่สามารถขยายออกไปได้อีก ทั้งนี้เนื่องจากตัวอาคารมีขนาดจำกัดและไม่ได้ออกแบบไว้สำหรับการนี้โดยตรง เพื่อเป็นการขยายกิจการของพิพิธภัณฑ์สัตว์และสถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็มให้กว้างขวางยิ่งขึ้นกว่าเดิมทางมหาวิทยาลัยโดยการนำของ ดร.ทวี หอมชง และคณะ ได้จัดทำโครงการขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2523 รัฐบาลญี่ปุ่นได้ให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าในการจัดตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์ทางทะเลเป็นมูลค่า 230 ล้านบาท โดยเริ่มก่อสร้างในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2524 ณ บริเวณด้านหน้าของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตบางแสน ในเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาเสด็จทรงวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2525 การก่อสร้างแล้วเสร็จ และมีพิธีมอบให้แก่มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2526
           พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงกระทำพิธีเปิดศูนย์วิทยาศาสตร์ทางทะเล เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2527 จากนั้นศูนย์วิทยาศาสตร์ทางทะเลได้จัดทำโครงการเพื่อยกฐานะเป็นสถาบัน และได้รับอนุมัติให้เป็นสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่ให้องค์ความรู้ในเรื่องวิทยาศาสตร์ทางทะเลมาจนถึงปัจจุบัน

การจัดแสดง
ส่วนการจัดแสดงถูกแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ใหญ่ ๆ โดยบริเวณภายนอกสถาบัน จะมีการแสดงโครงกระดูกวาฬแกลบ ( Balaenoptera edeni) ที่ตายในเขตน่านน้ำไทย ชั้นแรก มีการแสดงสัตว์อาศัยบริเวณชายฝั่งที่มีปรากฏการณ์น้ำขึ้น น้ำลง เช่น แมงดาทะเล, ปลิงทะเล, หอยเม่น, ดาวทะเล, ปูเสฉวน, ดอกไม้ทะเล เป็นต้น ต่อมาจึงเป็นส่วนของปลาในแนวปะการังซึ่งอาศัยอยู่อย่างเกื้อกูลกัน เช่น ปลาการ์ตูนกับดอกไม้ทะเล เป็นต้น ต่อมาจึงเป็นส่วนของสัตว์ทะเลที่ไม่มีกระดูกสันหลัง ปลาเศรษฐกิจ ปลาที่มีพิษ และปลาที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทรและบ่อฉลาม โดยเฉพาะในส่วนของปลาที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทรนี้ถือได้ว่าเป็นจุดสนใจของสถาบันแห่งนี้มาตลอด เพราะมีการเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ในตู้กระจกขนาดใหญ่ที่มีความจุน้ำถึง 200 ตัน ที่ใช้ความหนาของกระจกถึงหนึ่งคืบ เช่น ปลาหมอทะเล (Epinephelus lanceolatus), ปลาฉลามครีบดำ (Carcharhinus melanopterus) ซึ่งปัจจุบันได้มีการสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิมซึ่งสามารถจุน้ำได้ถึง 1,000 ตัน แล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2552 และเปิดให้เข้าชมได้ในวันที่ 5 ธันวาคม ปีเดียวกัน
ชั้นบน จะเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเล ช่วงแรกเป็นการแสดงนิทรรศการถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เกี่ยวกับพระราชกรณีกิจทางด้านการฟื้นฟู อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และด้านวิทยาศาสตร์การประมง ต่อมาเป็นการแสดงถึงเรื่องราวของอาณาจักรของสิ่งมีชีวิตในทะเล เช่น แพลงก์ตอน, ฟองน้ำ,หมึก เป็นต้น ต่อมาจึงเป็นส่วนของนิเวศวิทยาทางทะเลและสัตว์ทะเลที่มีความผูกพันเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนไทย มีการจัดแสดงเครื่องมือที่ใช้ใมนการประมงและเรือประมง เป็นต้น และพิพิธภัณฑ์เปลือกหอย
ภาพการจัดแสดงชั้น 1




          ภาพการจัดแสดงชั้น 2




          สาระที่ได้
          สถาบันวิทยาสตร์ทางทะเลมีการนำหลักการและทฤษฎีการการเรียนรู้ของ เอการ์ เดล ที่จัดรูปแบบของสื่อตามลักษณะการเรียนรู้จากนามธรรมไปสู้รูปธรรม โดยเน้นการเรียนรู้จากจากประสบการณ์จริง ให้ผู้ที่ศึกษาได้เห็นและสัมผัสจากของจริง อันจะทำให้เกิดการเรียนรู้ที่มีความสัมฤทธิ์สูง เพราะผู้เรียนจะสามารถจดจำรูปร่างและลักษณะของสัตว์ที่ศึกษาชนิดต่างๆได้ดีกว่าการฟังจากคำบอกเล่าของครู
อาจารย์
          มีการนำวัสดุกราฟิกมาเป็นสื่อเพื่อแสดงความหมายหรือข้อเท็จจริง แนวคิด และเสริมความเข้าใจที่อาศัยส่วนประกอบที่เป็นรูปภาพ สัญลักษณ์ และแผนภาพ อย่างอย่างลงตัว อาทิเช่น การใช้ภาพเพื่อสื่อถึงความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่อาศัยอยู่รวมกัน โดยภาพที่นำเสนอนั้นจะมีอยู่ 2ลักษณะ คือ ภาพเสมือนจริง จะเป็นการถ่ายภาพจากสิ่งมีชีวิตจริงมาประกอบการอธิบายเพื่อให้ผู้เรียนนั้นเห็นลักษณะของสิ่งมีชีวิตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ลักษณะที่สอง เป็นลักษณะของภาพการ์ตูน ที่วาดขึ้นหรือใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยทำ เป็นการช่วยเพิ่มแรงจูงใจที่จะเข้ามาศึกษาอีกทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มความเข้าใจให้ผู้ที่ศึกษาอีกด้วย











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น